Songklan Festival [2]

“พวกเขาคุยอะไรกัน”   เสียงกระซิบเบาๆของคลิ้นดังขึ้น

“เงียบหน่อยสิพวกนายฉันไม่ได้ยินเห็นไหม”   นาตาชากระซิบกลับ

“ไม่เห็น ไม่ได้ยินด้วย”   แซมต่อปากต่อคำจนนาตาชาหันมามองค้อนใส่ทำเอาแซมจ๋อยไปเล็กน้อย

แกร๊ก!

เสียงเปิดประตูห้องของมหาเศรษฐีดังขึ้นทั้งสามคนพร้อมใจกันเงียบและหันไปทางประตูบ้านนั้นทันที สิ่งที่เห็นก็คือ โทนี่เดินออกมาตัวปลิวตามด้วยพ่อกัปตันคนดีของชาติเดินตามออกมาพร้อมกล่องปริศนาสองกล่องที่วางซ้อนกันอยู่

และความสงสัยก็พลันเกิดขึ้นทันที นั่นกล่องอะไร???

“พวกนายจะซ่อนกันอีกนานไหม?”   เสียงสวรรค์ของสตีฟได้บังเกิดขึ้น

“อ่าว นึกว่าจะไม่รู้ตัวซะอีกคิดว่าซ่อนเนียนแล้วนะเนี่ย”   แซมลุกขึ้นคนแรกตามด้วยคลิ้น

“เธอด้วยแนท”   สาวมาดเข้มของกลุ่มลุกขึ้นพร้อมยกมือสองข้างขึ้นด้วย

“ว่าแต่นั่นกล่องอะไรแคป?”   เธอยิงคำถามทันที

“ไม่รู้สิ ต้องถามโทนี่เอง”   ทั้งสี่หันไปทางพ่อมหาเศรษฐี ใจบุญ อย่างพร้อมเพรียง โทนี่ยกยิ้มให้ก่อนจะตอบ

“เดี๋ยวลงไปก็รู้เองแหละน่า อย่าคิดมากเลย รับรองสนุกกันถ้วนหน้า”

.

ตุบ!

เมื่อถึงห้องนั่งเล่นที่เดิมเพิ่มเติมมาคือกล่องปริศนาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจ้องมายังกล่องที่ว่าทันที

“เอาล่ะ! น่าจะได้เวลาแล้ว”

???

ทุกคนได้แต่ยืนงงกับประโยคลอยๆของเจ้าของตึกก่อนจะ

“คุณสตาร์ก!!!! เรียกผมมาเล่นด้วยแบบนี้รู้สึกตื่นเต้นจนเดินอยู่หน้าตึกหลายรอบก่อนเข้ามาเลยครับ อ่าว เฮ้! สวัสดีครับทุกคน”   ไม่ใช่ใครที่ไหนที่แท้ก็เด็กในสังกัดของโทนี่เอง

“โอเคๆ ทุกคนก็ครบแล้วเราเริ่มแจกอุปกรณ์กันเลยดีกว่า พีทช่วยที”   โทนี่ยกกล่องใบข้างบนให้เด็กมาใหม่ แล้วเจ้าตักก็เปิดกล่องอีกใบทันที

“ฟรายเดย์อธิบายสิ่งที่เราจะเล่นต่อไปนี้ให้พวกนี้ฟังหน่อยสิ”   โทนี่ที่กำลังวุ่นอยู่กับการเอาปืนฉีดน้ำมาเรียงรายนอกกล่องก็พูดขึ้น

“รับทราบเจ้าค่ะ เจ้านาย”   ตามด้วยภาพโฮโลแกรมที่แสดงรูปต่างๆมากมายและตัวหนังสืออันแสนจะยาวเหยียด   “สิ่งที่เจ้านายอยากจะให้ทุกคนได้เล่นก็คือ สงกรานต์ ที่เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยที่มีมาอย่างยาวนาน สงกรานต์คือเทศกาลประจำปีในช่วงต้นของเดือนเมษาที่มีอากาศร้อน นอกจากการละเล่นแล้วยังมีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อเป็นศิริมงคลต่อตัวเองและผู้ใหญ่อีกด้วย นี่คือรายระเอียดแบบย่อค่ะ”

ต่อมาคือวิดีโอที่ถ่ายโดยใครบางคนที่ไปเล่นน้ำที่ไหนสักที่ของประเทศไทย นอกจากจะมีคนในประเทศแล้วยังมีชาวต่างชาติอีกมากมายที่สนุกสนานกับการเล่น

“ดูเป็นการเล่นที่น่าสนุกนะครับโทนี่ แต่เราจะไปเล่นกันที่ไหน?”   สตีฟถามคนแรกหลังจากวิดีโอได้จบลงไป

“หือ? ไม่เห็นยาก ก็ห้องนี้ไง”

“…”


เย้ ในที่สุดก็ได้ฤกในการเปิดคอมแล้วค่าาาาา ฮืออออ และในที่สุดตอนที่สองก็คลอดออกมาค่าาา เย้!!!

[1 comment or 1 กำลังใจ] ทำให้ไรต์มีแรงแต่งต่อนะคะ >< ❤

Songklan Festival [1]

Songklan Festoval!!!

Paring : Stony Thorki KillChalla

Rate : ใสย์ๆ

Note : สุขสันต์วันสงกรานต์(ย้อนหลัง)นะคะทุกคน เนื่องจากไรต์ไปเจอเหตุการณ์แบบนีต่อหน้าต่อตามาค่ะเลยอยากจะลองเอามาแต่งดู


วันนี้เป็นวันหยุดยาวของเหล่าสมาชิกอเวนเจอร์ จริงๆแค่ไม่มีงานเข้ามาเฉยๆพูดง่ายๆก็ว่างงาน และด้วยความว่างนี่แหละทำให้โทนี่ผู้ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาฝีปากลงไม้ลงมือหาวันสำคัญตามประเทศต่างๆและมาหยุดที่ประเทศไทย

“อืมม ก็น่าสนใจอยู่นะ”   ว่าแล้วก็ก็อปข้อมูลทั้งหมดมานั่งอ่านภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพร้อมโทรสั่งเสื้อฮาวายหลากหลายรูปแบบและปืนฉีดน้ำรวมไปถึงสิ่งที่เรียกว่าถังใบเล็กๆอีกด้วย

โทนี่ลุกขึ้นยืนมองผลงานของตัวเองอย่างพึงพอใจ

“เพอร์เฟค”

ตัดภาพมาที่สมาชิกคนอื่นๆที่กำลังนั่งทำงานอดิเรกของตัวอย่างเมามันส์(?)

และกัปตันอเมริกาที่พึ่งกลับมาจากการวิ่งจ๊อกกิ้งในเวลาสายๆก็กวาดสายตาไปรอบห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่

“มีใครเห็นโทนี่บ้างหรือเปล่า?”

“น่าจะยังอยู่ในห้องนอนล่ะมั้ง พวกเรายังไม่มีใครเห็นเขาเลย”   บรูซ แบนเนอร์อาสาเป็นคนตอบให้

“ขอบคุณครับ”   สตีฟเอ่ยขอบคุณก่อนจะเบี่ยงตัวเองออกจากห้องนั่งเล่นแล้วเดินไปยังห้องของเจ้าของตึกทันที ปล่อยให้คนอื่นนิ่งค้างหลังจากที่พ่อกัปตันคนดีได้คำตอบแล้วรีบไปหาโทนี่ทันทีแบบนั้น

“พ่อกัปตันคนดีศรีชาติอเมริกาของเราเป็นอะไรอีกล่ะ???”   แซมถามขึ้นแทบจะทันทีหลังจากสตีฟออกจากห้องไป

“โถ่ว แซมพ่อคนที่รู้ไปซะทุกเรื่องอย่างนายไม่รู้พวกเราจะรู้ไหม? ถามมมม??”   คนที่หันมาแว้งกัดนั้นไม่ใช่ใครคลิ้นนั่นเอง

“เอาน่า อย่ากัดกันเองจะได้ไหมแค่ตามไปรู้ทุกเรื่องเองแหละน่า”  นาตาชาเอ่ยห้ามทับก่อนจะพุ่งตัวไปที่ลิฟต์ทันที

“เฮ้ย รอกันด้วยสิ!”   คลิ้นและแซมประสานเสียงตามด้วยเสียงทิ้งอาวุธลงพื้นแล้วพุ่งไปที่ลิฟต์ตามหญิงผมแดงจนประตูลิฟต์เกือบปิดทับมือของทั้งสองคน

“พวกเจ้าช่างเหมือนเด็กเสียจริง”  ธอร์พูดหลังจากประตูลิฟต์ได้ปิดลง   “เจ้าว่างั้นไหมน้องข้า?”   ธอร์หันไปขอความเห็นจากคนข้างๆ

“เหอะ”  นี่แหละคือคำตอบของโลกิ

.

ทางด้านโทนี่ที่กำลังจัดเตรียมงานอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวด้านล่าง สองมือจับนู่นจับนี่ดูวุ่นวายไปหมด

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ใครกันที่บังอาจขึ้นมาเคาะห้องโทนี่หยุดการกระทำทั้งหมดพลางคว้าผ้าผืนใหญ่มาก ย้ำ ใหญ่มากขึ้นมาคลุมของที่เจ้าตัวสั่งมาทั้งหมดภายในพริบตา

“ฟรายเดย์ใคร?”

“คุณสตีฟค่ะเจ้านาย”

ฟัค!! นี่คงเป็นคำสบถที่ดีที่สุดในตอนนี้ของโทนี่แล้ว ไม่รอช้าเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง โทนี่มองซ้ายมองขวาก่อนจะโดนขึ้นเตียงแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาจนถึงคอและตามด้วยการนอนแบบหลับตาพริ้ม

“ฟรายเดย์ให้เข้ามาได้แล้วอย่าลืมโกหกแทนพ่อด้วยนลูกรัก”   เมื่อสั่งเสียจบโทนี่ก็ทำการดิ่งเข้าห้วงนิทราแบบเฟคๆทันที

“รับทราบค่ะเจ้านาย”

แกร๊ก

สตีฟเปิดประตูเข้ามาหลังจากได้ยินเสียงกลไกปลดล็อคกลอนประตู

“เจ้านายพึ่งหลับไปไม่กี่ชั่วโมงนี่เองค่ะคุณสตีฟ”

“ขอบคุณที่แจ้งครับฟรายเดย์”   สตีฟตอบกลับก่อนจะหันมามองคนที่(แกล้ง)นอนหลับอยู่บนเตียงใหญ่

ทำได้ดีมากฟรายเดย์ โทนี่แอบยิ้มเยาะในใจพลางขยับเปลี่ยนท่านอนเล็กน้อยให้ดูสมจริง

“แล้วคุณจะแกล้งนอนไปถึงไหนครับ? โทนี่”

ชิท! ความแตกแล้วหรอ    ไม่เสียเวลาคิดให้มากโทนี่ค่อยๆลุกขึ้นกึ่งนอนกึ่งนั่งบนเตียง

“ทีงี้ละฉลาดเฉียวนะ ทีเรื่องอื่นยังไม่ฉลาดขนาดนี้เลย”   เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็อดที่จะต่อปาดต่อคำไม่ได้

“?? เรื่องอะไรหรอครับ”   สตีฟถามกลับด้วยสีหน้าที่เชื่อเถอะว่าเหมือนคนไม่รู้จักความรัก

“อยากรู้หรอ”   ร่างสูงพยักหน้าช้าๆสองครั้ง   “ฉลาดให้ได้เหมือนตอนที่รู้ว่าฉันแกล้งหลับสิ”   เมื่อทิ้งระเบิด(?)เสร็จ เจ้าตัวก็เด้งออกจากเตียงแล้วเดินไปยังกองที่มีผ้าคลุมอยู่จนถึงเมื่อครู่ มือข้างหนึ่งจับผ้าแล้วออกแรงดึงเล็กน้อยผ้าที่คลุมอยู่ก็หลุดออกทั้งหมด


Tbc. ไหดองใบใหม่ค่าาาา ติชมได้ตามสบายเลยนะคะ ><

I know ‘you know’ [Thorki]

I know ‘you know’ [OS]

Pairing : Thorki [Thor x Loki]

Rate :

Talk : เรื่องนี้เป็นเรื่องต่อของ I know นะคะ ถ้ายังไม่ได้อ่านก็รบกวนกลับไปอ่านก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ

=-=-=-=-=-=

            พระอนุชาหรือน้องชายเขาคิดว่าจริงๆแล้วเจ้าตัวเป็นคนดี แต่กลับชอบทำตัวเหมือนตัวเองเป็นตัวร้ายเสมอ เขาคิดว่าเขานี่แหละเข้าใจน้องชายมากที่สุด แต่มันก็ไม่ใช่เอาเสียเลย

            ในคราที่โลกิได้ตกลงจากสะพานไบฟรอสต์นั่นคือครั้งแรกที่ข้าได้เห็นน้ำตาในดวงตาคู่นั้น แต่พอเจอกันอีกครั้งในดวงตาสีเขียวมรกตก็ยังคงความมุสาเอาไว้ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแต่ข้าก็ยังโกรธโลกิอยู่เสมอ และครั้งที่สองที่โลกิตายต่อหน้าข้า ข้ารู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจในนี่อาจจะคือความเสียใจที่สุดของเขาหลังจากท่านแม่ได้จากไป

            ไม่นานหลังจากที่ข้ากลับจากการท่องเที่ยวไปยังโลกทั้งเก้าเพื่อหาอินฟินิตี้สโตน ข้าก็ได้พบกับน้องชายอีกครั้ง ถึงแม้จะไปไม่สวยแต่เขาก็ยอมรับว่าดีใจที่ได้เจอโลกิอีกครั้งจากก้นบึ้งของจิตใจถึงแม้การตายทุกครั้งก็เป็นเหมือนเรื่องที่เจ้าตัวชอบแกล้งทำก็ตามที

            และดูเหมือนการที่โดนหักหลังบ่อยๆเข้าทำให้ข้ารู้ทันโลกิขึ้นมาอีกก้าวหนึ่ง

            “พวกเรามันเดินคนละเส้นทางมาตั้งนานแล้วโลกิ”   นั่นคือสิ่งที่ข้าได้เอ่ยออกไปในยามที่กำลังจะไปขโมย ไม่สิแอบไปเอายานของแกรนด์มาสเตอร์ ในตอนนั้นใบหน้าของเจ้าเหมือนกำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่เจ้าก็กลับเงียบ

            ข้ารู้เสมอว่าเจ้ารู้เรื่องของข้าทุกเรื่อง

            ข้ารู้ว่าเจ้ารู้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวของข้า

            ข้ารู้ว่าเจ้าชอบโกหกเพื่อให้คนรอบข้างไม่ชอบเจ้า

            ข้ารู้เสมอว่าเจ้ารักท่านแม่ที่สุด

            ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบให้ใครมาเห็นในยามที่เจ้าอ่อนแอ

            แต่เจ้ารู้หเรือไม่ว่า บางอย่างที่เจ้าไม่ยอมพูดออกมาข้าก็ไม่รู้หรอกว่าจะเป็นอย่างไร เพราะข้าไม่ได้ฉลาดเช่นเจ้านี่ลิ

            เจ้าก็รู้ว่าข้านั้นโง่แค่ไหน

            หลังจากจบศึกกับพี่สาวคนโตอย่างเฮล่า ข้าก็ได้สูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่งแต่ข้าว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก เพราะมันทำให้ข้ารู้บางอย่างจากท่านพ่อ

            เมื่อข้าเห็นเจ้าผ่านกระจกข้าก็ได้เอ่ยบางอย่างที่แสนจะเหมือนเอาแต่ใจ

            “ถ้าหากเจ้าอยู่ตรงนี้.. ข้าคงกอดเจ้าไปแล้ว”   พลางผินกายไปหาเจ้าโลกิ

            “ข้าอยู่นี่”   อา ให้ตายเถอะ ถึงแม้ข้าจะเอาแต่ใจขนาดไหนคนที่ตามใจข้าเสมอก็ยังคงเป็นเจ้า โลกิ

            ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเจ้ามักจะอยู่ข้างหลังข้าเสมอ

            ข้าไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเจ้ามักจะคอยเรียกชื่อข้าอยู่เสมอ

            แต่เจ้ารู้ไหมข้ารู้มาอย่างหนึ่งด้วยตัวเอง ข้ารักเจ้าโลกิ ถึงเจ้าจะคิดว่าข้ารักเจ้าแบบฉันท์พี่น้องก็ตามที และสักวันข้าจะดึงเจ้าออกจากความมืดเอง

The END

สั้นๆง่ายๆได้ใความอีกแล้วค่ะ TT เราขอโทษ/กราบ/ เราก็แต่งโดยฟังเพลงเดิมเลยค่ะแล้วผลมันก็ออกมาเป็นแบบนี้ ฮือออ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ อย่าลืม เม้น หรือ กดให้กำลังใจ ให้ด้วยนะคะแล้วเรื่องใหม่จะงอกออกมาค่ะ 555555

I know [Thorki]

I know [OS]

Pairing : Thorki

Rate : PG-

Talk : จู่ๆก็ครึกครื้นอะไรก็ไม่รู้อ่ะ 5555 อยากลองแต่งคู่นี้บ้างเฉยๆไม่มีอะไรหรอกเชื่อเราสิ 55555 ตอนนี้จะอยู่ในไทมไลน์ของRagnarokนะคะ น่าจะนะ (ฮา)

=-=-=-=-=

            “พวกเรามันเดินคนละเส้นทางมาตั้งนานแล้วโลกิ”   ข้าเหลือบมองธอร์เล็กน้อย

ท่านมันโง่เสมอเลยพี่ข้า ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ตั้งแต่เล็กจนโต ตอนที่เจ้าจับการปลอมตัวของข้าได้หรือว่าตอนที่เจ้าเอ่ยประโยคนั้นขึ้นมา

ข้ารู้ว่าเจ้าเอ่ยมันขึ้นมาเพราะสิ่งใด

ข้ารู้ว่าต่อไปนี้จะเป็นเช่นไร

ข้ารู้เสมอพี่ข้า

แต่เจ้ากลับไม่เคยรู้เลย ไม่รู้อะไรเลย

เพียงเจ้ามองกลับมาทางด้านหลังของท่านมักจะมีข้าอยู่เสมอแต่เจ้ากลับไม่เคยหันมามอง จนถึงเมื่อครู่ตอนที่ข้าลอบมองตาเจ้าข้าถึงได้รู้ว่า เจ้าได้ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะปล่อยข้าไปอย่างที่ข้าเคยทำไว้ในเมื่อครั้งอดีต พอได้รู้สิ่งนั้นข้าก็เจ็บตรงอกขึ้นมาแต่ข้าต้องกดมันลงไปในส่วนที่ลึกที่สุดสร้างน้ำแข็งขึ้นมาป้องกัน

หลังจากจบศึกเฮล่า เจ้าก็พูดเอาแต่ใจอีกครั้ง

“ถ้าหากเจ้าอยู่ตรงนี้.. ข้าคงกอดเจ้าไปแล้ว”

ข้าอยู่ตรงนี้เสมอท่านพี่ แต่ตอนนี้คงสายเกินไปเพราะเจ้าอยู่ปลายสุดของแสงสว่าง ส่วนข้านั้นอยู่ปลายสุดของความมืด พวกเรา.. ไม่สิมันไม่มีคำว่าพวกเรามาตั้งนานแล้ว เจ้ากับข้าแต่เดิมทีก็อยู่คนละที่ เจ้าอยู่ข้างหน้าเสมอและข้าก็อยู่ข้างหลังเสมอและจะอยู่ตลอดไป ไม่ว่าเจ้าจะรู้หรือไม่ธอร์

ข้ารักเจ้านะ แต่ข้าปากหนักเกินไปที่จะเอ่ยมันออกมา

ข้ารู้ว่าเจ้าก็รักข้าฉันท์พี่น้อง

ข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีทางที่จะรักข้าในแบบอื่น

ข้ารู้ธอร์ รู้ทุกอย่าง ทุกการกระทำของเจ้า

และข้าก็จะรู้ตลอดไป

ข้าก็หวังว่าเจ้าจะไม่รู้เรื่องนี้ตลอดไป

ข้าขอให้เจ้ามองไปแต่ข้างหน้า ได้โปรดอย่าหันกลับมามองยักษ์น้ำแข็งอย่างข้า

ขอให้เจ้าเดินต่อไปทิ้งอดีตทุกอย่างไว้กับข้าที่อยู่ด้านหลัง

ขอให้เจ้ามีความสุข

และข้าจะอยู่ตรงนี้ที่เดิมเสมอ

The END

Talk : เราไม่รู้ว่าจะออกมาดีไหมแถมยังสั้น ตรวจคำผิดแค่รอบเดียวเองด้วย._. ไหนๆก็เข้ามาอ่านแล้ว 1 comment = 1 กำลังใจ ให้เราหน่อยนะ >< ติชมได้นา

Symphony [Stony]

Symphony [OS]

Pairing : Stony

Rate : PG

Writer : wizCitysecretGarden

Talk : เหตุเกิดจากการเมากาวค่ะ

=-=-=-=-=

          ผมชอบเสียงของคุณนะ ทุกครั้งที่ได้ฟังมันเหมือนกับเสียงเวลาที่พู่กันถูกพาดผ่าน เสียดสีกับผืนผ้าใบ สีหน้าของคุณเหมือนกับสีน้ำเวลามันถูกป้ายลงเปลี่ยนจากสีขาวของผ้าใบให้เป็นสีอื่น ผมชอบทุกๆอย่างที่เป็นคุณหรือแม้แต่ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหมือนเซเฮลนัท ผมมองมันด้วยความหลงใหลอยู่เสมอ

            ผมจะได้ยินแต่เสียงหัวเราะและความสุขที่หลังหลับไปหลายสิบปี ผมได้เริงร่าอยู่บนโลกที่สดใสไม่แพ้กับดวงตาของคุณ ทุกครั้งที่คุณพยายามไม่นอนหรือมัวแต่ปะเชื่อมหุ่นยนต์ของคุณ ผมมักจะไปอุ้มคคุณกลับไปนอนแทบทุกครั้ง ทุกวันของเราผ่านไปอย่างเรียบง่ายแต่ถ้าหากไม่ติดกับภารกิจที่ชอบเข้ามาแทบจะตลอด ผมมีความสุขดีนะและผมก็ชอบอะไรที่เรียบง่ายแบบนั้น

            จนถึงวันที่เรียกได้ว่าแตกหัก จนเราต้องเดินกันคนละทางอย่างชัดเจน ผมทำใจไม่ได้เลยสักครั้งเมื่อคิดว่าคุณจะไม่ยอมนอนทำงานหามรุ่งหามค่ำ สภาพร่างกายที่ย่ำแย่ลงจนต้องนอนโรงพยาบาลแต่คุณคงไม่ยอมนอนแน่ๆ สิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้ก็มีเพียงส่งจดหมายโง่ๆกับมือถือรุ่นเก่าไปให้คุณ ในเครื่องที่มีเพียงเบอร์ของผมเพียงเบอร์เดียว ข้อความในจดหมายผมหวังว่าคุณจะยอมอ่านมันสักครั้ง

            I promise you. If  you need us , if  you need me. I’ll be there

            .

            จนกระทั่งวันหนึ่งคุณได้โทรมา นั่นทำให้ผมดีใจจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ ผมรีบหยิบมันขึ้นมาและกดรับแทบจะทันที

            “โท—“

            “สตีฟ ฟังนะผมจะพูดแค่รอบเดียว ฝากเจ้าหนูสไปร์เดอร์แมนด้วย”

            ติ๊ด

            ก่อนที่สายจะถูกตัดไปทันที ผมมองโทรศัพท์อยู่อย่างนั้นน้ำเสียงของคุณดูอ่อนแรงและกำลังเหมือนขาดอากาศหายใจ ผมยังไม่ทันได้ไขข้อข้องใจอะไรหุ่นไอรอนแมนก็ลอยมาหยุดตรงหน้าพร้อมร่างหนึ่งที่ร่วงออกจากเกราะมา

            “คุณสตาร์ก!!!”   เด็กคนนี้ร้องหาคุณทันที   “ฟรายเดย์ได้โปรดพาผมกลับไปหาคุณสตาร์ก”   เด็กหนุ่มที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นสไปเดอร์แมนที่คุณบอกมากำลังขอร้องกับฟรายเดย์

            “เจ้าหนู โทนี่อยู่ไหน?”

            “เอ่อ.. คือ..เขากำลังสู้อยู่คนเดียว แต่ว่านะฮะคณสตาร์กถอนเกราะเอามันใส่ให้ผมแล้วสั่งฟรายเดย์ว่าให้พามาหาคุณผมขัดขืนอะไรไม่ได้เลย!!”   เด็กหนุ่มว่าทั้งน้ำตา

            ถ้าอย่างนั้นโทนี่คุณก็ต้องตัวเปล่าสิ คุณจะสู้ไหวหรอ? ด้วยร่างกายที่เหมือนจะพังได้ทุกวินาทีนั่น ทำไมคุณถึงไม่โทรมาขอความเชื่อเหลือล่ะ ทำไม ทำไม ทำไมล่ะโทนี่ ทำไมคุณชอบดื้อกับผมจังเลย

            สมองของผมสั่งให้ร่างกายรีบวิ่งไปหาผู้ครองประเทศแห่งนี้ รายงานเขาเท่าที่สติจะทำได้และขอเครื่องบินเจ็ทด่วนและรีบตรงไปหาคุณ แต่ดูเหมือนผมจะชอบมาช้าเสมอ ร่างของคุณนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นอันเย็นเฉียบเพราะซีเมนต์ ดวงตาที่ถูกปิดทำให้ผมไม่สามารถมองตาคุณได้อีกครั้ง

            “ขอโทษโทนี่ ผมขอโทษผมน่าจะมาให้เร็วกว่านี้”

            “ผมรักคุณนะโทนี่ รักมาตลอดแล้วจะรักตลอดไป”

            ผมกอดร่างคุณไว้แนบอกไม่ว่าใครจะพยายามดึงคุณออกไปผมก็จะรั้งไว้ได้โปรดอยู่กับผมให้นานกว่านี้ความรู้สึกนี้มันแย่กว่าตอนที่ผมทิ้งคุณไว้ข้างหลังกับโล่นั่น โลกที่ไม่มีคุณมันไม่น่าอยู่เอาเสียเลย มันทั้งข่มขื่นและมืดมด

The End

—————————-

[1 comment = 1 กำลังใจ]<3

เมาๆเพลงแล้วลองเอามาแต่งในฟิลของตัวเองดูค่ะ คือถ้ามันรู้สึกขัดๆยังไงก็รบกวนแนะด้วยนะคะ ._.

Memories [Stony]

                เรื่องราวต่อจากนี้เป็นเพียงจินตาการของผู้เขียน ดังนั้นจะไม่สอดคล้องกับตัวของภาพยนตร์นะคะ

———————————————————————————-

            หลังจากเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวที่ธานอสบุกมาที่โลกเพื่อมาเอาอัญมณีที่เรียกว่าอินฟินิตี้สโตน มันก็ผ่านมาค่อนข้างจะนานพอสมควร และความสูญเสียที่ค่อยๆฟื้นฟูขึ้นมาตามกาลเวลา เหล่าผู้คนที่ต้องต่อสู้กับความยากลำบากกับความเป็นจริงอันโหดร้าย และนั่นก็รวมถึงตัวของผมด้วย

            ผมสตีฟ โรเจอร์ส อดีตกัปตันอเมริกา ต้องพบกับสิ่งที่เรียกว่าตายทั้งเป็นเมื่อรู้ข่าวว่าโทนีคนที่ผมรักและห่วงใยมากที่สุดโดนธานอสเล่นงานจนต้องนอนในห้องICU ในตอนแรกผมแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองจนได้มาพบกับโทนีตัวเป็นๆ เขานอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดของโรงพยาบาลสายน้ำเกลือ สายไฟวัดชีพจรโยงระใยไปทั่วห้องราวกับจะยื้อคนที่นอนอยู่ไม่ให้จากไปไหน

            เรี่ยวแรงที่เคยมีกลับหดหายเข่าของผมทรุดลงไปนั่งกับพื้นที่เย็น น้ำตาที่เคยคิดว่ามันเหือดแห้งลงไปแล้วได้ไหลลงมาอีกครั้ง หัวใจเหมือนถูกทำให้หยุดเต้น มือเย็นเฉียบ ร่างกายสั่นเทา สายตามองเพียงร่างนั้นผ่านกระจกใสที่กั้นอยู่

            “คุณสตาร์กฟื้นแล้ว เรียกหมอเร็ว!!”   เสียงตะโกนของเหล่าพยาบาลทำให้สติของผมกลับเข้าร่างอีกครั้งและเหมือนผมจะได้ยินเสียงแห่งความปิติยินดีจากก้นบึ้งของจิตใจ

            เพียงไม่นานคุณหมอที่เข้ามาสอบถามอาการเบื้องต้นก็ได้ออกจากห้องไป ผมถามทันทีว่าผมสามารถเข้าไปหาโทนีได้หรือไม่ คำตอบของหมอมีเพียงการพยักหน้าและอีกไม่กี่คำมันก็ทำให้โลกของผมหยุดหมุนอีกครั้ง

“ได้ครับแต่คนไข้ความจำเสื่อมเป็นไปได้ก็อย่าทำให้เขานึกถึงเรื่องร้ายๆนะครับ”

            และมันก็ผ่านมาได้จะสี่เดือนแล้วผมได้ใช้ชีวิตอยู่กับโทนีเกือบจะตลอด 24 ชั่วโมงที่ตึกของโทนี ใช่ ตึกที่ผมเคยบอกว่ามันอุบาศนั่นแหละ ทุกคนหลังจากรู้ว่าโทนีออกจากโรงพบาลพร้อมข่าวความจำเสื่อมก็รีบกลับมาหาโทนีแทบจะทันที และข่าวเองก็ถูกฟิวรี่ปิดไว้ทั้งหมดดังนั้นคนที่รู้ก็มีเพียง อเวนเจอร์ เท่านั้น

“โทนี่ครับ นี่ก็ดึกแล้วเราไปนอนกันเถอะ”   ผมเดินเข้าประชิดหลังคนตัวเล็กที่กำลังมองวิวยามกลางคืนอยู่

“อืม”   เจ้าตัวก็ตอบมาเพียงแค่นี้ตลอดจนผมก็แอบคิดไปว่าโทนีเริ่มได้ความทรงจำกลับมาแล้วเพราะเริ่มต่อปากต่อคำกับผมแล้ว อีกอย่างผมมันเห็นแก่ตัว เป็นไปได้ผมก็ไม่อยากให้โทนีจำอะไรได้ทั้งนั้น

“สตีฟ”   โทนีเรียกผมด้วยเสียงเบาในขณะที่เรากำลังเดินไปห้องนอนของเรา

“ครับ? เป็นอะไรครับโทนี”

“เปล่า คิดว่าไม่มี”   ดวงตาสีเซเฮลที่ผมขอบมองมันมัวหมองลงอีกแล้ว

“ถ้านึกอะไรได้ที่คิดว่าเป็นความทรงจำก็บอกผมได้นะครับโทนี ผมอยู่ข้างคุณเสมอ”   ถึงแม้ว่าผมไม่อยากให้ความทรงจำของคุณกลับมาก็ตามที โทนียิ้มให้หลังผมพูดจบรอยยิ้มที่หาได้ยากผมก้มลงไปประทับกับริมฝีปากของโทนี เพียงจูบที่กลีบปากเบาๆไม่ได้ลุกล้ำเข้าไป

เมื่อพระอาทิตย์สาดแส่งสีทองเข้ามายังห้องนอนทำให้คนที่นอนบนเตียงต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ดวงตาสีฟ้ามองนาฬิกาดิจิตอลที่หัวเตียงที่บ่งบอกเวลา 7 นาฬิกา เหมาะกับการไปวิ่งจ๊อกกิ่งยามเช้า

มือของผมลูบไปยังข้างเตียงที่คิดว่ามีโทนีอยู่แต่กลับพบเพียงแต่ความเย็นของเนื้อผ้าเท่านั้น

“โทนี!!”   โทนีหายไปไหน? ให้ตายสิทำไมเขาไม่รู้สึกตัวเลยว่าคนที่นอนกอดทุกคืนจะลุกหายไปดื้อๆแบบนี้

“ฟรายเดย์ครับ โทนีพกโทรศัพท์ไปด้วยหรือเปล่า??”   ผมถามเอไอประจำตึกทันทีหลังจากรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความเร็ว

“พกไปค่ะคุณโรเจอร์ส งั้นดิฉันจะส่งตำแหน่งของเจ้านายให้คุณนะคะ”   ต้องขอขอบคุณนิสัยของโทนีที่ชอบหยิบโทรศัพท์ติดตัวไปไหนมาไหนตลอด ถ้าไม่อย่างนั้นผมคงต้องวิ่งตามหาทั่วรัฐแน่ๆ

“ได้ตำแหน่งปัจจุบันของเจ้านายแล้วค่ะ”

“เขาอยู่ที่ไหนครับ”

“ห่างจากตึกไปเพียงสองบล็อกเองค่ะ ส่วนรายละเอียดเส้นทางดิฉันส่งเข้ามือถือของคุณโรเจอร์สเรียบร้อยค่ะ”

“ขอบคุณครับฟรายเดย์”   ผมเอ่ยขอบคุณเอไอลูกรักของโทนีแล้วก็รีบวิ่งออกจากตึกไปยังตำแหน่งที่เอไอส่งมาทันที

เพราะผมความจำเสื่อมหรืออะไรก็ไม่รู้ล่ะ ผมโทนี สตาร์ก ก็ได้สตีฟเป็นคนบอกอีกทีและแน่นอนว่าผมจำชื่อเต็มของผมได้แทบทันที แต่เรื่องอื่นๆกลับมีควันขาวๆหรือหมอกมาบังไว้ไม่ให้นึกถึงมัน แต่ไม่นานมานี้ผมได้ความทรงจำบางส่วนออก และรับรู้ได้ว่าคือเรื่องจริงทันที และบางทีสตีฟก็อาจยังไม่รู้ตัวเรื่องที่เขาเริ่มต่อปาดต่อคำ

แล้วดูเหมือนเขาจะรู้แล้วว่าสตีฟคือกัปตัน และวันนี้ก็ครบสี่เดือนที่สตีฟดูแลเขามาตลอดแทบจะประคองใส่ฝ่ามือ โทนีเลยตัดสินใจที่จะมาซื้อดอกไม้ตั้งแต่เช้า โดยแอบออกมาโดยที่ไม่บอกคนที่กำลังนอนอยู่และได้ขอร้องกับเอไอ (ที่สตีฟบอกว่าเขาเป็นคนสร้าง) ว่าแค่ออกไปเดินเล่นไม่ไกล

ร้านขายดอกไม้ร้านเล็กๆตั้งอยู่หัวมุมบล็อกที่สองเกือบบล็อกที่สาม มีกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้นานาชนิดลอยมาแตะจมมูก ผมเดินเข้าร้ายโดยไม่ได้ลังเลใจอะไรเลย หลังจากเลือกดอกไม้อยู่นานสุดท้ายผมก็ได้บอกเจ้าของร้านแค่ว่าเอาช่อดอกกุหลาบสีขาวโดยดอกทั้งหมดเขาจะเลือกเอง

ไม่นานช่อดอกไม้ก็ถูกวางบนเค้าท์เตอร์จ่ายเงิน ผมยื่นบัตรเครคิดให้เจ้าของร้านทันที หวังว่าจะชอบนะปู่ ผมยกยิ้มอย่างพอใจก่อนรอใบเสร็จรับเงินอย่างอารมณ์ดี

“โทนี!”   โอ้ พระเจ้า ว่ายังไม่ทันไรเจ้าของชื่อก็ยืนหอบอยู่หน้าร้านดอกไม้แห่งนี้แล้ว

“สตีฟ?”

“คุณออกมาทำไมตั้งแต่เช้าครับเนี่ย แล้วนี่ทำไมไม่ปลุกผมมาด้วย?”   สตีฟยิงคำถามใส่ผมทันที ให้ตายสิเห็นผมเป็นเด็กอมมือรึไง?

“อย่าบ่นน่าปู่”

“โทนี หรือว่าคุณ”   สตีฟดูหน้าซีดลงถนัดตาและชอบทำหน้าหงอยๆเหมือนหมาโดนเจ้าของทิ้ง

“เปล่า ก็จำได้นิดหน่อย ไม่มาก”

“อย่างนั้นหรอครับ”

“อย่าทำหน้าเหมือนหมาโดนเจ้าของทิ้งสิ เอ้านี่”   ผมทนไม่ได้ที่เห็นหน้าแบบนั้นเลยหยิบช่อดอกไม้ที่วางอยู่เค้าท์เตอร์ยื่นไปตรงหน้า

“ให้ผมหรอ?”

“ก็ให้นายสิจะให้ใคร”

“ดีใจจังเลยครับโทนี”   สตีฟรับช่อดอกไม้พร้อมดึงผมเข้าไปกอดแน่น ราวกับจะให้รับรู้ว่าไม่อยากให้ผมไปไหนทั้งนั้น

“กอดแบบนี้เอาแต่ใจจังเลยนะปู่”   คำยี้ยวนออกจากปากผมอีกครั้ง

“ก็ผมมันเป็นคนเห็นแก่แต่นี่ครับ เป็นไปได้ก็ไม่อยากให้คุณจำอะไรได้ทั้งนั้น”

“รู้น่า”   ผมกอดตอบพร้อมตบหลังเบาๆ ดูเหมือนดดอกไม้ที่พึ่งซื้อมาจะเละแล้วสิ เอาเถอะจะซื้อให้เยอะแค่ไหนก็ทำได้ก็เพราะผมรวยไงล่ะ (แน่นอนว่าเรื่องนี้สตีฟก็บอกอีกนั่นแหละ)

End..

ก็นึกว่าจะจบไม่สวยแล้วค่ะ ฮือ TT พึ่งแต่งแนวนี้ครั้งแรกไม่รู้ว่าจะถูกใจคนอ่านหรือเปล่านะคะ

ที่แต่งมาแนวความจำเสื่อมเพราะได้แรงบันดาลใจจาก http://www.liekr.com/post_158013.html?utm_source=topcomment&utm_medium=2018010807

ขอบคุณเรื่องราวน่ารักๆของคุณปู่คุณย่าท่านนี้ด้วยนะคะ หากผิดพลาดยังไงรบกวนติชมด้วยค่ะ

1 comment = 1 กำลังใจนะคะ><

Yuri on ice [AU] Loot ch.11

Yuri on ice [AU] Loot

Pairing : victor.N x yuri.K

Rate :

=++++++++++++++++++++++++++++=

“วิคเตอร์ นี่คุณอีกแล้วนะครับ”   ยูริได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตก ไม่คิดเลยว่าจะมาตามกวนเขาจนถึงเวลางานแบบนี้ คนอะไรหน้าด้านจริงๆ

“ไม่เอาน่ายูริ เราออกจะสนิทกันนี่?”   วิคเตอร์จงใจเน้นตรงคำว่า เรา เพื่อให้ใครบางคนได้ยินมันอย่างชัดเจน

.

หึ เล่นผิดคนแล้ว ให้รู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร

.

“ให้ผมคุยกับลูกค้าไม่ได้หรอครับ นี่งานนะครับวิคเตอร์อีกอย่างคุณกับผม ไม่ได้เป็นอะไรกัน”   ปโยคยาวเหยียดที่สุดเท่าที่ยาวได้ถูกส่งออกจากริมฝีปากบางและสายตาอันเบื่อหน่ายถูกส่งให้กับเจ้าของร้านทันที

“ยูริใจร้าย”   ว่าแล้ววิคเตอร์ก็ทำหน้าเหมือนลูกหมาที่โดนเจ้าของดุใส่

“ตกลงคุณเลอร์ลอยด์ต้องการอะไรครับ?”   ยูริหันไปมองคนที่ถูกเมินตั้งแต่คุณเจ้าของร้านมา

“นั่นสินะ งั้นขอแบบเดิมแล้วกัน”   เจเจที่ดูเหมือนโดนจ้องเขม่นอยู่ตลอดเวลาก็ต้องทำตัวเรียบร้อยไว้ก่อน

“แบบเดิมนะครับ”   ยูริยืนยันออเดอร์อีกครั้งก่อนจะไปเตรียมของที่จะทำ

“ยูริรู้จักกับลูกค้าคนนี้ด้วยหรอ”   เสียงหย๋อยๆของวิคเตอร์ดังมาเข้าโสตประสาท

“ครับ รู้จัก”   ดวงตาคู่สวยก็ยังไม่ละออกจากการคนน้ำสีเขียวที่เกิดจากการผสมของเหล้าหลากชนิด

“ไม่คิดแนะนำหน่อยหรอ?”

“ไม่เกี่ยวกับงานครับ”

“ฮะๆ คุณนี่เป็นคนตลกดีจังก็รู้อยู่ว่าเขาไม่เล่นด้วยก็ยังจะตื้ออีกนะ”   เจเจที่ทนฟังไม่ไหวจนต้องหลุดหัวเราะออกมาอย่างที่เห็นก็แซะคนผมเงินทันที

“หึหึ ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีความสัมพันธ์ของเราก็แบบนี้แหละ ไม่เหมือนของใครบางคน”   ถ้าเป็นดั่งในจอทีวีคงเห็นสายฟ้าฟาดจากการจ้องกันของสองคนนี้แน่ๆ

“ถ้าเป็นปลากัดคงได้ลูกเยอะแล้วละครับ จ้องกันขนาดนั้น”   มือเรียวบางวางเมนูโปรดของลูกค้าตรงหน้าก่อนจะหันหลังเอาขวดเหล้าไปเก็บโดยไม่สนใจเสียงง้องแง้งด้านหลังเลย

.

.

TBC.-

Talk : ไม่ได้มาต่อตั้งนานนนนน(น.หนู ล้านตัว) เพราะเราขี้เกียจ =..= /โดนโบก เจอกันตอนหน้านะคะ แต่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ =,.=

Yuri on ice [AU] Loot ch.10

Yuri on ice [AU] Loot

Pairing : victor.N x yuri.K

Rate :

=++++++++++++++++++++++++++++=
   หลังจากวันนั้น วันที่ยูริได้มีสัมพันธ์เกินเลยกับคุณเจ้าของกิจการไนต์คลับ เป็นเพราะความตั้งใจของทั้งคู่ก็เลยไม่เกิดผลเสียตามมา

   ยูริมาทำงานเป็นคุณบาร์เทนเดอร์สุดเซ็กซี่อีกครั้งโดยไม่ทิ้งคราบเด็กแว่นสุดเฉิ่มไว้หลงเหลือบนใบหน้า การทำงานก็เป็นเหมือนทุกๆวันที่มีทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายมาจีบอีกตามเคย แต่พอจะเอ่ยปากขอจีบทีไรก็เปลี่ยนเรื่องทุกทีจนบาร์เทนเดอร์คนสวยจับได้

.

.

“เอ่ออ…”

“บอกผมไม่ได้หรอครับ?” บาร์เทนเดอร์คนสวยเอียงคอน้อยๆพร้อมคำถามที่ถูกถามออกไป ส่วนลูกค้าที่กำลังจะจีบแล้วเกิดเปลี่ยนใจกระทันหันตอนนี้กำลังกระอักกระอ่วนกับคำถามที่ถูกถาม

“คือ.. ผม เอ่อ.. ที่คอครับ” ถึงช่วงท้ายประโยคจะเบาแต่ยูริก็ได้ยินมันทุกคำทุกพยางค์

“ที่คอ?” ยูริทวนคำตอบอีกครั้ง และสิ่งที่ได้กลับมาคือการพยักหน้าเร็วๆสองสามทีของคุณลูกค้าก่อนจะลุกหนีเหมือนหนีอะไรสักอย่างไปพร้อมแก้วเหล้าในมือ

   ยูริได้แต่มองตามหลังอย่างงงๆก่อนจะก้มลงไปดูกระจกที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์ รอยแดงๆที่คล้ายๆรอยยุงกัดมีอยู่สองสามจุดใกล้ๆกัน เมื่อคิดพิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้วมือบางก็หยิบพาสเตอร์สีเนื้อ มาแปะบริเวณที่มีรอยแดงปรากฏ หันซ้ายหันขวาเช็คความเรียบร้อยของตัวเองเสร็จ ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์ต่อไป

.

.

“รับอะไรดีครับ” ยูริเอ่ยถามแขกผู้มาเยือนเคาน์เตอร์คนใหม่ทั้งๆทียังไมเงยหน้าจากการเตรียมของ

“คุณคนสวยลองแนะนำให้ผมหน่อยสิครับ”

“นี่คุณ” เมื่อเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียกอันคุ้นเคยก็พบกับบุคคลที่ไม่ค่อยอยากจะทำความคุ้นเคยสักเท่าไหร่

“เรียกเจเจสิครับ คุณบาร์เทนเดอร์ของผม”

“ใครเป็นของคุณไม่ทราบครับคุณเลอลอยด์?”

“เอาน่า หยวนๆกันหน่อยวันนี้ฉันเป็นแขกนะ บริการกันหน่อยสิ” ยูริได้แต่กรอกตามองบนพร้อมพรูลมหายใจออกแรงๆหนึ่งที

“จะรับอะไรดีครับคุณลูกค้า” พร้อมรอยยิ้มหว่านเสน่ห์ที่เจ้าตัวชอบทำเป็นประจำ

.

   เจเจทั้งๆที่คิดว่าตัวเองนั้นจะไม่คิดอะไรเกินเลยกับคนรักเก่าอย่างยูริอีกแล้วเมื่อเจอรอยยิ้มแบบนั้นเข้าไป หัวใจดวงน้อยๆก็กระตุกวูบเหมือนได้ตกหลุมรักอีกครั้ง ให้ตายสิ!

.

“แล้วตกลงจะรับอะไรดีครับ?” ยูริเอ่ยถามอีกรอบเมื่อคุณลูกค้าตรงหน้าไม่ยอมสั่งอะไรสักที

“ขะ ขอตัวคุณบาร์เทนเดอร์กลับบ้านหนึ่งที่” เจเจสั่งด้วยน้ำเสียงที่ตัวเองก็ไม่มั่นใจว่าคนตรงหน้าจะได้ยินเสียงสั่นๆของเขาไหม ก็ได้แต่คิดอยู่ในใจคนเดียว

“ขอโทษด้วยนะครับ รายการนี้ผมสั่งได้คนเดียว”
TBC.-

Talk : สั้นๆง่ายๆได้ใจความ 555555 สำหรับตอนหน้าคงจะมีวาทศิลป์กันของคนสองคน และอีก1พยาน

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรจงติดตามตอนต่อไป!!!!

Yuri on ice [AU](os) side to side

Yuri on ice [AU](os) side to side

Pairing : Victor N. x Yuri K.

Rate : PG-17

Talk : คุยกันนิดหนึ่ง~!!! เรื่องนี้เกิดจากความกาว(อีกแล้ว)ของเราเอง เนื่องจากไปดูความหมายมาแล้วก็เกิดไอเดียขึ้นมาได้ จริงอยู่ที่ความหมายของเนื้อเพลงค่อนข้างที่จะติดเรทนิดหน่อยแต่ก็แค่นิดเดียว จึงคิดว่างั้นไม่ต้องมีฉากอย่างว่าแต่สื่อความคล้ายๆว่าให้มันมีแล้วกันเนอะ 5555
                      =++++++++++=

I’ve been here all night 

Been here all day 

And boy, got me walkin’ side to side
   ในไนต์คลับที่เริงรมย์ไปด้วยเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม กลิ่นของแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้งไปทั่ว ควันสีขาวๆของบารากุนับสิบๆอันที่ตั้งวางไว้ตามโต๊ะ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมดไว้ในสถานที่นี้

“ยูริๆ ลองไอ้นี้สิ” เด็กหนุ่มผิวแทนพยายามยัดแก้วที่มีของเหลวสีฟ้าสดใสในแก้วทรงสวยให้กับเด็กหนุ่มหน้าตาธรรมดาที่สวมแว่นกรอบฟ้า

“มะ-ไม่เอาครับพิชิตคุง” มือขาวที่ไม่ถึงกับซีดพยายามดันแก้วที่บรรจุของเหลวนั่นกลับไป

“เอ๋~? มาทั้งที่ ไม่กินมันเสียเที่ยวนะ”

“พิชิตดื่มเองเถอะครับ”

“ชิส์ ไม่สนยูริแล้วเนอะซึงกึล” เมื่อต่อว่าเพื่อนจนหน่ำใจแล้วก็หันไปคุยกับคุณแฟนสุดหล่อแต่หน้านิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่ทำเพียงพยักหน้าตอบเบาๆเท่านั้น แล้งวมือแกร่งก็ล็อคเอวของหนุ่มผิวแทนไว้ไม่ให้ขยับไปไหนไกลตัว
I’m talkin’ to you

See you standing over there with your body 

Feeling like I wanna rock with your body 
   เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาเหยียบที่แห่งนี้ ด้วยความอยากรู้จึงสอดสายตาไปทั่วเหมือนเด็กๆได้มาเที่ยวในสถานที่แปลกใหม่ ดวงตาสีน้ำตาลแดงได้หยุดมองคนๆหนึ่ง รูปร่างดี ผิวขาว เรือนผมเงิน หน้าตาหล่อเหลาตามแบบฉบับของคนต่างชาติ ไม่แปลกที่จะดึงดูดได้ทั้งชายและหญิง

   และก็เผลอมองเพลินจนเพื่อนเริ่มแซวเข้าให้
And we don’t gotta think ‘ bout nothin’

I’m comin’ at you

‘Cause I don’t know you got a bad reputation 

Doesn’t matter, ’cause you give me temptation 
“ที่ยูริกำลังมองอยู่น่ะ ผู้ชายคนนั้นชื่อ วิคเตอร์ นิกิฟอรอฟ เจ้าพ่อวงการเพลย์บอยของจริง ทั้งข่าวลือที่ว่าควงแขนไม่ซ้ำหน้า หรือคบได้ทั้งชายหญิง ก็มีมาหมดแล้ว ถ้าจะเข้าไปหาล่ะก็แนะนำว่าอย่าดีกว่านะ” พิชิตพูดพร่ำยาวเหยียดและเตือนกลายๆว่า อย่ายุ่ง คิดหรือว่าเพื่อนสนิทอย่างคัตสึกิ ยูริ คนนี้จะยอม ถึงพิชิตเพื่อนสนิทจะไม่รู้ความลับบางอย่างของเขาก็ตามที

“ไม่เป็นไรหรอกครับพิชิตคุง ผมก็ไม่คิดที่จะเข้าไปใกล้อยู่แล้ว” ยูริเอ่ยยิ้มๆ พลางยกเครื่องดื่มสุดหวานที่โปรดปรานเข้าปากไป
And we don’t gotta think ’bout nothin’

These friends keep talkin’ way to much

Say I should give you up

Can’t hear them, no
“ผมเตือนแล้วน๊าา ยูริ”

“ครับๆ ผมว่าพิชิคคุงเริ่มเมาแล้วนะครับ”

“ยังๆ~ ผมยังไม่เมาเลยนะ ใช่ไหมซึงกึล?”

“อืม” ถึงจะโต้เถียงไปก็ไร้ประโยชน์ซึงกึลเลยเลือกยัดแก้วเหล้าชนิดอ่อนๆให้คนผิวแทนที่นั่งข้างๆ หรือพูดง่ายๆซึงกึลกำลังมอมเหล้าพิชิตอยู่นั่นเอง ยูริก็นั่งเงียบมองพิชิตที่กำลังถูกมอมแบบเนียนๆโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้

   แต่สายตาก็ยังคงเหลือบมองคนที่ชื่อวิคเตอร์อยู่เป็นพักๆ
I’ve been there all night 

Been here all day 

And boy, got me walkin’ side to side

Been here all night 

Been here all day

And boy, got me walkin’ side to side
“ผมขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะครับ”

“อา” ในเมื่อเพื่อนสนิทตัวดีได้น็อคคาอกแฟนหนุ่มไปแล้ว ยูริก็ขอตัวไปทำธุระที่ในห้องนำ้

   ถึงจะยอกว่าธุระแต่จริงๆก็แค่มาแต่งหน้าทำผมในห้องน้ำอันไร้ผู้คนเท่านั้นเอง ผมสีดำคลับถูกเสยขึ้นไปแต่จะมีเพียงปอยผมเท่านั้นที่หลุดออกมาเล็กน้อย ลิปมันไร้สีถูกแต่งแต้มลงบนกลีบปาก แว่นตาก็ยังคงอยู่บนใบหน้างาม

   เสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนถูกถอดออก เหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวบางกับกางเกงรัดรูปสีดำเท่านั้น
Been tryna hide it

Baby, what’s it gonna hurt if they don’t know?

Makin’ everybody think that we solo

Just as long as you know you got me
   สองขาก้าวยาวๆไปหาบุคคลที่กำลังถูกทั้งผู้ชายผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลัง มือบางแตะลงบนไหล่ผู้ที่ยืนขวางหน้าแล้วผลักออกเบาๆให้พอเซไปด้านหลังแล้วเบียดตัวเข้าไป เพียงไม่นานก็เข้าประชิดตัวของคนเนื้อหอมได้แล้ว

“สวัสดีครับวิคเตอร์” น้ำเสียงหวานปนเซ็กซี่เอ่ยทักทาย ทำให้ร่างสูงต้องหันมาสบตากับเจ้าของเสียง

“ว่าไงยูริ”
And boy I got you 

‘Cause tonight making deals with the devil

And I know it’s gonna get me in trouble 

Just as long as you know you got me
“ไม่เจอกันนานเลยนะครับ เราสองคนเนี่ย”

“นั่นสินะ ยูริไม่คิดจะมาต่อสายสัมพันธ์กันหน่อยหรอ?”

“ในหัวของคุณมีแต่เรื่องแบบนั้นหรอครับ?”

   หลังจากที่ยูริเข้าไปทักร่างสูง ทั้งสองก็ขอปลีกตัวมานั่งดื่มด้วยกันที่โซนวีไอพีด้านบน ทำให้มองเห็นบรรยากาศด้านล่างทุกอย่าง เสียงเพลงที่ดังพอจะลอดผ่านเข้ามาในห้องพอให้ได้ยินเบาๆแต่เสียงจากในห้องไม่อาจเล็ดลอดออกไปด้านนอกได้

“ก็แหม่~ หลังได้สัมผัสเธอแล้วคนอื่นน่ะเทียบไม่ติดเลยนะ”

“ไม่ใช่ว่า คุณแต่พูดยอผมเล่นหรอกใช่ไหมครับวิคเตอร์?” ยูริปรายหางตามองอีกคนอย่างเยาะเย้ย

“โถ่ ฉันจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรล่ะคนดี?” วิคเตอร์ก็ส่งสายตาขี้อ้อนเหมือนลูกหมาที่โดนเจ้าของทิ้ง แต่นั่นก็ไม่ทำให้ยูริใจอ่อนได้หรอก

“เพื่อความสนุกของคุณไงครับ วิคเตอร์”

“ฉันไม่ทำหรอกนะที่รัก” วิคเตอร์โน้มตัวลงไปหาอีกคนก่อนจะมอบจูบอันแสนหวานเยิ้มให้
These friends keep tlakin’ way to much

Say I should give you up

Can’t hear them, no, cause 

I’ve been here all night 

Been here all day 

And boy, got me walkin’ side to side
ถึงเพื่อนๆจะเตือนแล้วเตือนอีก ไม่ใช่ว่าคัตสึกิ ยูริคนนี้จะไม่จำหนอกนะ เพียงแต่มันมีอะไรที่พิเศษมากว่านั้น

“ยูริ เพื่อนๆเติอนขนาดนั้นแท้ๆทำไมยังเข้าหาฉันอยู่ล่ะ หื้ม?” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฎบนใบหน้าคมคายทันที

“เพราะผมรู้ว่าคุณไม่ปฏิเสธผมเหมือนคนอื่นๆหรอกครับ?” รอยยิ้มเซ็กซี่กระฉากใจคนที่เพียงเดินผ่านมาให้หยุดอยู่กับที่ได้อย่างสบายๆ และแน่นอนว่าคนอย่างวิคเตอร์ไม่ชอบให้ใครมองของๆตัวเองด้วยสายตาหื่นกระหายแน่นอน

“อ่ะ!?” ยูริจนอยู่ในอ้อมกอดของวิคเตอร์หลังจากยิ้มโปรยเสน่ห์ที่ยังไม่ถึงนาที
Been there all night 

Been there all day 

And boy, got me walkin’ side to side 
This the new style with the fresh type of flow 

Wrist icicle, ride dick bicycle 

Come true yo, get you this type of flow 

If you wanna manij I got a tricycle 
“อ่ะนี่ ยูริของขวัญสำหรับคำขอโทษ” กล่องสีน้ำเงินเข้มถูกยื่นให้ตรงหน้า ยูริมองกล่องสลับกับมองคนให้ แล้วค่อยๆยื่นมือไปรับมันมาเปิด

   อัญมณัที่สวยนั้นมันก็ขึ้นอยู่ที่คนชอบ ว่าจะชอบแบบไหน อัญมณีสีเพลิงแดงที่ผ่านการเจียระไนนับหลายสิบกะรัตถูกประดับบนรัดเกล้าสีเงินพิสุทธิ์ที่ถูกออกแบให้เหมือนไม้เลื้อย

“ชอบไหม?”

“ขอบครับ ขอบคุณนะครับวิคเตอร์ จริงๆไม่ต้องซื้อให้ขนาดนี้ก็ได้ใช้ยังไม่ครบเลยนะครับ”

“ก็กลัวยูริเบื่ออันเก่านี่~” ว่าจบก็โพล่งเข้ากอดคนรักอย่างออดอ้อน
All these bitches, flows is my mini-me

Body smoking, so they call me young Nicki chimney 

Rappers in they feelings ’cause they feelin’me
บางครั้งวิคเตอร๋ก็เกลียดพวกผู้หญิงที่ชอบทำตัวแบบชะนีเหมือนกัน ที่เข้าหาก็เพราะฐานะ หน้าตา เป็นซะส่วนใหญ่ มีเพียงยูริคนเดียวที่เข้าหาเพราะความรักไม่เหมือนคนอื่นๆ

“หึ คิดแล้วก็น่าขำ”

“มีอะไรรึเปล่าครับ?”

“ไม่มี ออกไปได้แล้ว”

“ครับ” เมื่อ ลี ซึงกึล รับคำจากเจ้านายก็ออกไปทันทีตามคำสั่ง
Uh, I-I give zero fuck and I got zero chill in me

Kissing me, copped the blue box that say Tiffany

Curry with the shot, just tell’em to call me Stephanie
บางทีการออกมาทำงานนอกสถานที่ก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อไม่ใช่เล่นๆ แต่คนอย่างวิคเตอร์ไม่สนใจหรอก แค่ทำงานให้เสร็จๆแล้วกลับไปหายูริที่คอนโดก็เพียงพอแล้ว

“คราวนี้ซื้ออะไรให้ดีนะ?” วิคเตอร์ยอมรับว่าตัวเองรวยและหล่อมาก แต่ไม่ได้หลงตัวเองนะถึงยูริชอบบอกว่าหลงตัวเองก็ตามที

   แต่ใครจะสนล่ะ? มีเพียงแค่ยูริก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ใช่แค่ยูริเท่านั้น

“ข- ขอโทษครับ คะ-คราวหลังๆ จะไม่หะ-!!”

ปัง!!

“หนวกหู คนที่เหลือเก็บกวาดซะ ฉันจะกลับแล้ว” เมื่อสั่งการพวกลูกกระจ๊อกเสร็จ ก็เดินขึ้นรถแล้วสตาทร์ออกไปทันที
Gun pap and I make my gun pop

I’m the queen of rap, young Ariana run pop
“แล้วผมจะเป็นทั้งราชินีของคุณและราชินีที่คุณขาดไม่ได้” น้ำเสียงหวานเอ่ยอย่างไม่แคร์ใคร ปลายสายตามองวิคเตอร์ที่นั่งชันเข่าข้างหนึ่งที่พื้นเบื้องล่าง ส่วนเจ้าตัวกลับนั่งบนเก้าอี้หรูสีแดงสด

“เอาสิ ถ้ายูริอยากจะเป็น” วิคเตอร์เอ่ยพร้อมประคองเท้าคู่งามขึ้นมาจูบ
These friends keep talkin’ way to much

Say I should give you up 

Can’t hear them, no

I’ve been here all night 

Been here all day 

And boy, got me walkin’ side to side
จริงๆไม่มีใครรู้และคงไม่ได้รู้อีกต่อไป ทั้งยูริและวิคเตอร์รู้จักกันมานานมากพอสมควร แต่เพราะทั้งเพื่อนๆของยูริและวิคเตอร์ไม่เคยถามเลยไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคน

   เพราะฉะนั้นก็ให้มันเป็นความลับที่ไม่ลับต่อไปแบบนี้… ก็ดีแล้ว
This the new style with the fresh type of flow 

Wrist icicle, ride dick bicycle 

Come true yo, get you this type of flow 

If you wanna manij I got a tricycle 
“วิคเตอร์ คราวหน้าไปเที่ยวไหนดีครับ?” ยูริถามขึ้นมาในขณะที่อีกคนกำลังขับรถอยู่บนทางหลวงที่ค่อนข้างไร้ผู้คนขับผ่าน

“แล้วยูริอยากไปที่ไหนล่ะ?”

“ที่ๆมีวิคเตอร์ จะที่ไหนก็ไปครับ”

.

.

.

End#

Yuri on ice [AU] Loot ch.9

Yuri on ice [AU] Loot
Pairing : victor.N x yuri.K
Rate : R-18 **NSFW**
=++++++++++++++++++++++++++++=

   สองร่างที่กำลังนัวเนียกันอยู่ในห้องกว้าง ทั้งรสจูบที่หวาบหวามเสียงหอบหายใจที่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ความร้อนในกายเพิ่มขึ้นสูงตามแรงรมย์ที่ปรารถนาในการครอบครองอีกฝ่าย
   ลิ้นร้อนเกี่ยวหวัดตักตวงดูดดุนในโพรงปากอย่างเอาแต่ใจวิคเตอร์ไม่ปล่อยให้อีกคนได้พัก แต่ดูเหมือนไม่จำเป็นในเมื่ออีกฝ่ายก็ชำชองในการจูบดี
   มือหนาไล่เลิกเสื้อขึ้นจากเอวบางโดยที่ไม่ยิมผละออกจากกลีบปากหวาน เสียงอืออึงร้องประท้วงแต่วิคเตอร์หาได้สนใจไม่ สองมือไล่ปลดกระดุมเสื้อขาวบางจนหมดแล้วถอดออกจากกายขาวอมชมพูตามแบบคนมีสุขภาพผิวดี ริมฝีปากทั้งสองผละออกจากกันเหลือไว้เพียงน้ำสีใสจากมุมปากเท่านั้น ดวงตาน้ำตาลปรือตามองคนตรงหน้าด้วยความต้องการ
“อ๊ะ!?!” สองนิ้วเรียวยาวกำลังชำแรกเข้าไปช่องทางสีหวาน หมุนควงไปรอบๆ ก่อนจะแทนบางอย่างเข้าไป
“อื้อ! ทะ-ทำอะไร!”
“แค่ของเล่นเองอย่ากลัวไปสิยูริ” ใข่สั่นสีชมพูอันเล็กได้ถูกสอดใส่เข้าไปจนหมดตามด้วยของเล่นชิ้นต่อไปอย่างไวเบอร์ขนาดเทียบเท่ากับของเขา
“ฮึก! ฮ้าาาา”
“จะออกแล้วหรอ? เป็นเด็กไม่ดีเลยนะยูริแบบนี้ต้องลงโทษนะ” สายหนังสีดำคลับถูกนำมารัดเข้ากับสิ่งอ่อนไหวที่ใกล้จะไปถึงฝั่งฝัน
“อย่า อย่าทำแบนั่น ได้โปรด ฮึก! วิคเตอร์” ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาด้วยความเสียวซ่าน มือบางกำผ้าปูที่นอนแน่นแทบจะหยิกมันติดมือ
   วิคเตอร์ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น ยังเอื้อมมือไปจับของเล่นบางอย่างออกมาจากกล่องข้างๆที่ไม่รู้ว่าไปเอามาตอนไหน โดยที่ไม่ลืมกดปิดสวิตซ์สั่นของไวเบอร์และใข่สั่นหรรษาอันเล็กๆสร้างความเสียวกระสั่นให้ร่างเล็กตรงหน้าหวีดร้องอย่างสุดเสียง
   ความรู้สึกที่ขึ้นไปจนใกล้สุดก็ถูกฉุดลงมาด้วยบางสิ่งบางอย่างที่กำลังสอดแทรกเข้าไปในแก่นกายเล็ก
“อ๊า!! เจ็บ มะ- ฮ่ะ มันเจ็บ วิคเตอร์!”
“ชู่ว~ เดี๋ยวเธอจะรู้สึกดีเองยูริ” วิคเตอร์ก้มลงไปจูบกลีบปากเป็นการปลอบโยน ลิ้นร้อนถูกส่งเข้าไปทักทาย มือหนาก็ยังไม่หยุดที่จะสอดใส่สิ่งนั้นเข้าไปจนเม็ดสุดท้าย
“นี่ฉันแถมให้พิเศษนะ” ใข่สั่นสองอันถูกวางบนยอดอกสีอ่อน และแปะด้วยเทปกาวก่อนจะหมุนสวิตช์จนสุด
“อ๊าาาา!!” วิคเตอร์ผละกายออกมาดูผลงานของตัวเอง ร่างกายบางที่เต็มไปด้วยของเล่นสุดโปรดของเขา มองร่างนั้นดุจงานศิลป์ชั้นดี เรือนร่างที่เต็มไปด้วยรอยขบกัดแดงๆบวกเข้ากับความเขินอายและความร้อนจากอารมณ์ใคร่
“ฮ้าา วิค-เตอร์ ผม..ฮะ ต้องการคุณ” เสียงหวานเอ่ยกระท่อนกระแท่นใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสั่น
   วิคเตอร์เลียริมฝีปากแห้งผากอย่างช้าๆ ค่อยๆเลื่อนมือไปปลดเข็มขัดและกางเกงลงความต้องการที่จะปลดปล่อยมันมากเกินไปบางทีเขาอาจคุมตัวเองไม่ได้ มือหนาดึงของเล่นสุดหรรษาทั้งสองออกจากช่องทางหวานอย่างรวดเร็ว
   กายร้อนต่อที่ทางเข้าแล้วค่อยๆกดมันเข้าไปอย่างช้าๆและใจเย็น แต่ก็เย็นไม่ถึงไหนเพราะผนังอ่อนนุ่มตอดรัดไว้ตั้งแต่ปากทาง มันอดที่ไม่ได้ที่จะกระแทกเข้าไปให้สุดโคน เรียกเสียงร้องหลงของคนใต้ร่างได้อย่างไม่ยากเย็น
“อ๊ะ! จะไป- ให้ผมไปนะ ฮ่ะ-! วิคเต– อ๊าา!” ร่างสูงกระแทกเบาๆในจุดที่ร่างบางตรงหน้าชอบก่อนเอ่ยคำกระซิบที่เหมือนเป็นคำสั่งของปิศาจ
“พร้อมกันสิยูริ❤︎”
   ค่ำคืนที่ร้อนแรงค่อยๆผ่านพ้นไปไฟที่ถูกจุดขึ้นจากจุดเล็กๆกลายเป็นกองไฟที่ใหญ่และดับไปในเช้าของอีกวัน
TBC-.
Talk : กลับมาแล้วค่ะสำหรับตอนที่9นี้ เนื่องจากตอนนี้เป็นฉาก nc ที่กำลังพัฒนาฝีมืออยู่ หากตกหล่นบกพร่องยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ 😘❤️

Create a free website or blog at WordPress.com.

Up ↑